วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2545-2550 เศรษฐกิจของประเทศไทยมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ส่งผลให้อุตสาหกรรมการก่อสร้างเติบโตอย่างรวดเร็วตามไปด้วย ก่อให้เกิดโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ทั้งของภาครัฐและภาคเอกชนขึ้นเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งทำให้กำลังการผลิตปูนซีเมนต์ภายในประเทศที่มีอยู่ในขณะนั้นไม่เพียงพอต่อความต้องการ ภาวะการขาดแคลนปูนซีเมนต์จึงเกิดขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2545-2550 สร้างความเดือดร้อนให้แก่อุตสาหกรรมการก่อสร้างเป็นอย่างมาก และเริ่มส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานตามแผนพัฒนาประเทศอีกด้วย รัฐบาลในขณะนั้นจึงได้เร่งแก้ไขปัญหาโดยการอนุญาตให้มีการนำเข้าปูนซีเมนต์จากต่างประเทศ และสนับสนุนให้ผู้ผลิตปูนซีเมนต์ในประเทศขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น รวมทั้งเปิดโอกาสให้มีการก่อสร้างโรงงานปูนซีเมนต์โดยผู้ผลิตรายใหม่ๆ อีกด้วย
ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะสนองตอบความต้องการปูนซีเมนต์ของตลาดภายในประเทศ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ บริษัท cfn cement จึงถือกำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2550 โดยได้ทำการก่อสร้างโรงงานปูนซีเมนต์ขึ้นบนเนื้อที่กว่า 50 ไร่ ที่ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา และได้เริ่มผลิตปูนซีเมนต์สนองตอบความต้องการของตลาดในประเทศตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2550 เป็นต้นมา ด้วยกำลังการผลิต 1 ล้านเมตริกตันต่อปี
เนื่องจากปริมาณความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ภายในประเทศยังคงขยายตัวอย่างไม่หยุดยั้ง บริษัท cfn cement จึงได้ขยายกำลังการผลิตปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านเมตริกตัน โดยเริ่มดำเนินการก่อสร้างสายการผลิตที่สองขึ้นในปี พ.ศ. 2551 ภายในบริเวณเดียวกันกับโรงงานแห่งแรก และแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2551 ซึ่งทั้งสองสายการผลิตนี้ใช้กระบวนการผลิตแบบแห้ง (Dry Process)
    บริษัท cfn cement เป็นผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่รายหนึ่งของประเทศ ปัจจุบันผลิตปูนซีเมนต์ออกจำหน่าย

วิสัยทัศน์องค์กรเพื่อวางรากฐานของอนาคตให้กับสังคม”
พันธกิจเพื่อเพิ่มพูนคุณค่าต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยการนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุด ด้านปูนซีเมนต์ อะกรีเกต และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง อย่างครบวงจร
สามารถบรรลุซึ่งผลกำไรที่เหนือมาตรฐาน ในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ ด้วยการปฎิบัติงานที่มุ่งมั่นใน คุณภาพ บริการ และนวัตกรรม”

ค่านิยมองค์กรที่ปูนซีเมนต์นครหลวง...เราตอบสนองทุกความต้องการ

เป้าหมายสูงสุด 4 ประการ: เราต้องการเป็นที่หนึ่งในใจ
ลูกค้าของเรา
ตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุด
ชุมชนของเรา
รับผิดชอบต่อสังคม ห่วงใยสิ่งแวดล้อม ชุมชน และสังคมไทย
พันธมิตรของเรา
ให้ความร่วมมือเพื่อเพิ่มพูนโอกาสทางธุรกิจ และเติบโตไปด้วยกัน
พนักงานของเรา
ได้รับผลประโยชน์ตอบแทนที่จูงใจ มีโอกาสพัฒนาตนเอง ก้าวหน้าในอาชีพ และทำงานท่ามกลางความไว้ใจ โปร่งใส ยอมรับนับถือซึ่งกันและกัน

โครงสร้างองค์กร





ปัญหาขององค์กร


1.ฝ่ายขาย
มีหน้าที่ ในการขายสินค้าของบริษัท ดูแล รับผิดชอบฐานลูกค้าเดิมและขยายฐานลูกค้าใหม่เพื่อต้องการจำหน่ายสินค้า ให้บริษัท โดยฝ่ายขายจะมีการเก็บข้อมูลของลูกค้าที่มาซื้อทั้งหมดและข้องมูลของสินค้า ที่ขาย

ปัญหาภายใน
1. เอกสารต่าง ๆ มีจำนวนมาก เอกสารต่าง ๆ มีดังนี้
1.1 เอกสารข้อมูลลูกค้า
1.2 เอกสารการสั่งซื้อสินค้า
1.3 เอกสารการขาย รวมถึงรายละเอียดของตัวสินค้าที่ขาย
1.4 รายละเอียดการรับประกันของสินค้า
2. เอกสารต่าง ๆ ถูกค้นหาได้ยาก เพราะการจัดเก็บที่ไม่เป็นระเบียบ
3. เปลืองเนื้อที่ในการจัดเก็บแฟ้มเอกสาร เนื่องจากเอกสารมีเยอะต้องจัดเก็บหลายที่
4. ข้อมูลเกิดการซ้ำซ้อน เพราะ บางครั้งลูกค้า 1 ท่าน อาจซื้อสินค้า หลายครั้ง และฝ่ายขายมีการเก็บข้อมูลทุกครั้ง เอกสารจึงเกิดความซ้ำซ้อน

2. ฝ่ายบัญชี
มีหน้าที่จัดสรรงบประมาณและดูแลรายรับรายจ่ายของบริษัท แล้วจึงนำเสนอให้ผู้บริหาร มีการรับข้อมูลจากฝ่ายขาย

ปัญหาภายใน
1. เอกสารต่าง ๆ มีจำนวนมาก
2. ค้นหาเอกสารได้ยาก เนื่องจากเอกสารมีจำนวนมากและยังจัดเก็บไม่เป็นระบบ
3. เอกสารสูญหายเพราะ เอกสารมีมาก และจัดเก็บไม่เป็นระเบียบ อาจจะทำให้เกิดความเสียหายต่อบริษัทได้
4. การทำงบประมาณการเงินทำได้ยาก เพราะเอกสารมีจำนวนมากและจัดเก็บไม่เป็นระเบียบ

3. ฝ่ายผลิต
มี หน้าที่ผลิตสินค้าของบริษัทที่จะออกจำหน่าย และทำการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพผ่านตามมาตรฐานที่บริษัทวางไว้และนำเก็บเข้า คลังสินค้าเพื่อทำการสต็อกสินค้าเอาไว้จำหน่าย

ปัญหาภายใน
1. ฝ่ายผลิตสินค้าไม่ทราบจำนวนของสินค้าที่ต้องการผลิตตามความเหมาะสม
2. ค้นหาเอกสารข้อมูลสินค้าได้ยาก เนื่องจากเอกสารมีจำนวนมากและยังจัดเก็บไม่เป็นระบบ
3. ฝ่าย คลังสินค้าไม่ทราบจำนวนสินค้าภายในคลังสินค้าอาจไม่พอหรือว่ามีจำนวน สินค้ามากเกินไป เนื่องจากไม่สามารถเช็คได้ว่าในคลังสินค้ามีจำนวนสินค้าอยู่เท่าไร

4. ฝ่ายขนส่ง
มี หน้าที่ ขนส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าให้ตรงตามเวลา และสถานที่ที่กำหนด เพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจ โดยรับสินค้าจาก ฝ่ายผลิตและคลังสินค้า

ปัญหาภายใน
1. ข้อมูล มีความแตกต่าง เนื่อง ลูกค้ามีการสั่งซื้อสินค้ามาก จึงต้องมีการจัดส่งสินค้าหลายที่ ทำให้ไม่ทราบลำดับในการจัดส่งสินค้าที่ถูกต้อง
2. เอกสารข้อมูลสินค้ามีจำนวนมาก เนื่องจากสินค้ามีหลายชนิดและหลายขนาด ทำให้การจัดเก็บเอกสารไม่เป็นระเบียบ
3. ระยะเวลาในการจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าอาจใช้เวลานานเนื่องจากต้องมีการค้นหาข้อมูลลูกค้าก่อน

5. ฝ่ายบุคคล
มี หน้าที่ในการจัดการดูแล งานด้านการบริหารบุคคลทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรับพนักงาน การคัดเลือกบุคคลเข้าทำงาน การลงโทษนักงาน ในองค์กร

ปัญหาภายใน
1. เอกสารมีจำนวนมาก ยากต่อการจัดเก็บ
2. การค้นหาเอกสารเป็นไปได้ยาก เนื่องจากการจัดเก็บเอกสารไม่เป็นระบบ
6. ฝ่ายคลังสินค้า
มีหน้าที่ในการตรวจสอบสินค้าและรับข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า จากแผนกขายสินค้าเพื่อส่งไปยังแผนกจัดส่ง

ปัญหาภายใน
1.เอกสารข้อมูลสินค้ามีจำนวนมาก เนื่องจากสินค้ามีหลายชนิดและหลายขนาด ทำให้การจัดเก็บเอกสารไม่เป็นระเบียบ
2. เปลืองพื้นที่ในการจัดเก็บแฟ้มเอกสาร เพราะเอกสารทุกชนิดจะจัดเก็บภายในแฟ้ม
3. ค้นหาเอกสารข้อมูลสินค้าได้ยาก เนื่องจากเอกสารมีจำนวนมากและยังจัดเก็บไม่เป็นระบบ

   เมื่อทางองค์กรได้วิเคราะห์ตรวจสอบภายในองค์กรแล้วจึงพบว่า แผนกขาย แผนกคลังสินค้า แผนกจัดส่งสินค้า ทั้ง 3 แผนกนี้มีปัญหาในการดำเนินงานมาก กว่าแผนกอื่นในบริษัท ทางผู้บริหารองค์กรจึงได้ทำการวิเคราะห์ความต้องการขององค์กรอีกครั้งอย่างละเอียดถีถ้วนอีกครั้ง
 จึงได้ข้อสรุปว่า ทางองค์กรจะซื้อซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการบริหารจัดการงานของแผนกทั้ง 3 แผนกนี้ โดยเบื้องต้นทางองค์กรจะนำระบบงาน SAP โมดูลที่ต้องการมาใช้แก้ปัญหาในองค์กร 
SAP (System Application and Products in Data Processing) เป็นโปรแกรมสาเร็จรูปทางธุรกิจประเภท ERP หรือ ERP ชั้นนาตัวหนึ่งในอุตสาหกรรมซอฟแวร์ของประเทศเยอรมัน ซึ่งจากหลักการของ ERP คือ การบูรณาการข้อมูลเข้าด้วยกัน ระบบ SAP จึงเป็นระบบงานที่มีการเชื่อมโยงข้อมูลของระบบงานย่อยแบบเรียลไทม์ ช่วยให้ข้อมูลสามารถเชื่อมโยงสอดคล้องกันระหว่างส่วนงานต่างๆอย่างเป็นระบบ ช่วยลดงานการบันทึกข้อมูลซ้าซ้อนเพิ่มความถูกต้องของข้อมูลมากขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการปฏิบัติงาน

ส่วนของโปรแกรมที่จะนำมาปรับใช้งาน

Sales and Distribution (SD) หรือโมดูลทางด้านการขายและการกระจายสินค้า ซึ่งเป็นระบบงานที่ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการขาย การจัดส่งสินค้า การออกใบแจ้งหนี้เพื่อเรียกเก็บเงินจากลูกค้า การวางแผนการจัดส่งสินค้า การจัดส่ง และการทาจ่ายค่าขนส่ง
Material Management (MM) หรือโมดูลทางด้านการจัดการวัตถุดิบเป็นระบบงานที่ครอบคลุมด้านการบริหารจัดการกระบวนการจัดซื้อจัดหา และการบริหารสินค้าคงคลัง